ประกันภัยรถยนต์ หายห่วง ชัวร์ ช่วยคุณจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้


ปัจจุบันจำนวนรถยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะในการดำเนินธุรกิจ และการดำเนินชีวิตมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดก็มีสถิติสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ดังนั้นความจำเป็นในเรื่องการทำประกันภัย จึงต้องมีเพิ่มมากขึ้น เพื่อที่จะเป็นหลักประกันที่มั่นคงในการดำเนินชีวิต และธุรกิจในสังคมนั่นเอง

การประกันภัยรถยนต์เป็นการช่วยป้องกันทรัพย์สินของผู้เอาประกันภัยอย่างหนึ่ง รวมถึงความรับผิดของผู้เอาประกันภัยในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุกับบุคคลภายนอก ไม่ว่าจะเป็น ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน ซึ่งจะต้องเป็นการรับผิดตามกฎหมาย ในเมื่อมีการชดใช้ค่าเสียหาย และอาจเป็นจำนวนเงินที่ไม่แน่นอน ความเสี่ยงภัยเหล่านี้จะลดภาระ และความเดือดร้อนทางด้านการเงินให้กับผู้เอาประกันภัย ก็ต่อเมื่อได้ทำประกันภัยไว้เท่านั้น โดยเป็นการกระจายความเสี่ยงภัยออกไป และผู้เอาประกันภัยไม่ต้องรับภาระความเสี่ยงภัยนั้นแต่ผู้เดียว

ประเภทประกันภัยรถยนต์
การประกันภัยรถยนต์ แบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก
1. การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือที่เรียกกันว่า ประกันภัยตาม พ.ร.บ. เป็นการประกันภัยที่กฎหมายบังคับให้รถทุกคัน ต้องทำประกันภัย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 เพื่อความคุ้มครองต่อการสูญเสียของชีวิต ความบาดเจ็บทางร่างกายของบุคคลผู้ประสบภัยจากรถยนต์
2. การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ เป็นการประกันภัยที่เจ้าของรถยนต์ ผู้ครอบครองรถยนต์เลือกที่จะทำประกันภัยโดยสมัครใจ เพื่อได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมกว่าการประกันภัยภาคบังคับ

หลักเกณฑ์การพิจารณาการซื้อประกันภัยที่ถูกต้อง
–     พิจารณาความคุ้มครองหรือภัยที่กำลังเผชิญอยู่
–     พิจารณาเบี้ยประกันภัยว่าเป็นเท่าไร ไม่ใช่ไปดูว่าเบี้ยประกันภัยถูกหรือแพง หรือได้ส่วนลดเท่าไร ก่อน โดยไม่สนใจ อย่างจริงจังเลยว่าความคุ้มครองเป็นอย่างไร ซึ่งถือว่าเป็นข้อบกพร่องอย่างยิ่งของการซื้อประกันภัย และเป็นการซื้อประกันภัยที่นำไปสู่ข้อโต้แย้งเมื่อมีเคลมเกิดขึ้น
–     เงื่อนไขและข้อกำหนดต่างๆ ในกรมธรรม์ อาจทำให้ผู้เอาประกันภัยเสียเปรียบได้ จึงควรตรวจสอบข้อความต่างๆ อย่างละเอียดถี่ถ้วน และทำความเข้าใจความหมายของถ้อยคำในกรมธรรม์ให้ดี
–     ควรนำกรมธรรม์ของหลายๆ บริษัทมาเปรียบเทียบกัน เพื่อจะได้ทราบว่าเงื่อนไขและข้อกำหนดของ บริษัทไหนให้ประโยชน์มากกว่า
–     นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องตระหนักไว้เสมอก็คือ  การมีกรมธรรม์ประกันภัยที่มีเงื่อนไขที่ดีนั้นเป็นเรื่อง หนึ่งและการเรียงร้องค่าเสียหายเมื่อมีเคลมเกิดขึ้นนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะการประเมินความเสียหายและการเจรจาต่อรองค่าเสียหายนั้นเป็นเรื่องสำคัญมากจำเป็นต้องให้ผู้ที่มีความรู้ที่อยู่ในอาชีพนี้และมีประสบการณ์ทำหน้าที่แทน